เลือกซื้อเครื่องดริปกาแฟแบบไหนดี

บทความนี้จะแนะนำการเลือกซื้อเครื่องดริปกาแฟให้เหมาะกับการใช้งาน ไม่ว่าจะใช้ที่บ้านหรือพกพา มีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เช่น วัสดุ ขนาด และฟังก์ชันเสริมของเครื่องดริปกาแฟที่ตอบโจทย์กับคุณ

how to select coffee dripper for dipper lover

เครื่องดริปกาแฟกำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักกาแฟที่ต้องการสัมผัสรสชาติของกาแฟแท้ ๆ และควบคุมการชงได้เอง การเลือกซื้อเครื่องดริปกาแฟให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้ได้กาแฟที่อร่อยแล้ว ยังเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจปัจจัยต่าง ๆ ในการเลือกซื้อเครื่องดริปกาแฟ ทั้งสำหรับใช้ที่บ้านและแบบพกพา รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจ พร้อมแนะนำวิธีใช้งานเครื่องดริปกาแฟให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


ปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องดริปกาแฟ

1. วัสดุและความทนทาน

วัสดุของเครื่องดริปกาแฟมีผลต่อรสชาติและความสะดวกในการทำความสะอาด เช่น

  • เซรามิก: เก็บความร้อนได้ดีและมีดีไซน์สวยงาม
  • แก้ว: มองเห็นกระบวนการดริป แต่เปราะบาง
  • พลาสติก: น้ำหนักเบาและพกพาสะดวก
  • โลหะ: แข็งแรงและเหมาะกับการใช้งานหนัก

2. ขนาดและความจุ

  • ขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟ 1-2 แก้ว
  • ขนาดใหญ่: เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการใช้งานในสำนักงาน

3. ประเภทของเครื่องดริปกาแฟ

  • Manual Dripper: ใช้มือเทน้ำร้อน ควบคุมรสชาติได้อย่างละเอียด
  • Electric Dripper: ใช้งานง่าย ไม่ต้องควบคุมด้วยตนเอง

4. ราคาและงบประมาณ

เครื่องดริปกาแฟมีตั้งแต่ราคาย่อมเยาว์จนถึงระดับพรีเมียม เลือกตามงบประมาณและความต้องการของคุณ


เครื่องดริปกาแฟแบบใช้ที่บ้าน

เครื่องดริปกาแฟสำหรับใช้ที่บ้านเหมาะสำหรับคนที่ต้องการชงกาแฟในบรรยากาศสบาย ๆ โดยสามารถเลือกได้ตามความต้องการดังนี้:

1. เครื่องดริปแบบ Manual Dripper

  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมการชง
  • ใช้คู่กับกระดาษกรองหรือฟิลเตอร์แบบถาวร
  • ตัวอย่างรุ่นยอดนิยม: Hario V60, Chemex

2. เครื่องดริปแบบ Electric Dripper

  • มีระบบอัตโนมัติ เช่น ตั้งเวลาและควบคุมอุณหภูมิ
  • เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการชงกาแฟในปริมาณมาก
  • ตัวอย่างรุ่นยอดนิยม: Breville Precision Brewer, Bonavita Connoisseur

ข้อดีของการใช้ที่บ้าน

  • สามารถเลือกใช้เมล็ดกาแฟและบดเองได้
  • ปรับเปลี่ยนสูตรชงกาแฟได้ตามต้องการ

เครื่องดริปกาแฟแบบพกพา

สำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยหรือชอบชงกาแฟนอกสถานที่ เครื่องดริปกาแฟแบบพกพาเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์

1. เครื่องดริปแบบพับเก็บได้

  • วัสดุซิลิโคนหรือพลาสติก น้ำหนักเบา
  • พกพาสะดวกในกระเป๋าเดินทาง

2. เครื่องดริปแบบ All-in-One

  • รวมอุปกรณ์ในตัว เช่น กระดาษกรองและแก้วรองกาแฟ
  • ตัวอย่างรุ่นยอดนิยม: Aeropress, Wacaco Nanopresso

ข้อดีของการพกพา

  • สะดวกสำหรับการเดินทางหรือกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การพกไป Camping 
  • ใช้งานง่ายแม้ไม่มีไฟฟ้า

อุปกรณ์เสริมเครื่องดริปกาแฟ

เพื่อให้การดริปกาแฟสมบูรณ์แบบ คุณอาจต้องการอุปกรณ์เสริมดังนี้:

1. กระดาษกรอง

  • เลือกแบบฟอกหรือไม่ฟอกตามความชอบ

2. กาต้มน้ำคอห่าน

  • ควบคุมการเทน้ำได้อย่างแม่นยำ

3. เครื่องบดกาแฟ

  • เลือกเครื่องบดแบบ Burr เพื่อความละเอียดสม่ำเสมอ

4. เครื่องชั่งน้ำหนัก

  • ใช้ชั่งกาแฟและน้ำเพื่อให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม

วิธีใช้งานเครื่องดริปกาแฟ

  1. เตรียมอุปกรณ์
    • ใส่กระดาษกรองในเครื่องดริปและล้างด้วยน้ำร้อน
    • เตรียมกาแฟบดให้เหมาะสมกับวิธีการชง
  2. ดริปกาแฟ
    • ใช้กาคอห่านเทน้ำร้อนลงบนกาแฟอย่างช้า ๆ
    • ปล่อยให้น้ำซึมผ่านกาแฟลงไปในแก้ว
  3. ชิมรสชาติ
    • ปรับปริมาณน้ำและกาแฟจนได้รสชาติที่ถูกใจ

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการใช้เครื่องดริปกาแฟ

  1. เลือกกาแฟคุณภาพดี
    • ใช้กาแฟคั่วสดใหม่เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด
    • ลองเลือกเมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกต่าง ๆ เพื่อสัมผัสความหลากหลายของรสชาติ
  2. ใช้น้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม
    • อุณหภูมิที่แนะนำคือ 90-96 องศาเซลเซียส
    • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเดือดจัด เพราะอาจทำให้รสชาติกาแฟขมเกินไป
  3. ทดลองบดกาแฟในระดับต่าง ๆ
    • การบดหยาบเหมาะสำหรับเครื่องดริปแบบ Manual
    • หากใช้ Electric Dripper อาจปรับให้บดละเอียดขึ้น
  4. ทำความสะอาดอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
    • ล้างกระดาษกรองและเครื่องดริปหลังใช้งานทันที
    • ใช้น้ำอุ่นและสบู่อ่อนเพื่อขจัดคราบน้ำมันจากกาแฟ

สรุป

การเลือกซื้อเครื่องดริปกาแฟควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น วัสดุ ความจุ และรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะใช้ที่บ้านหรือพกพา เครื่องดริปกาแฟที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสุขในการดื่มกาแฟ พร้อมกับอุปกรณ์เสริมและวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง คุณก็สามารถสัมผัสประสบการณ์กาแฟคุณภาพสูงได้ง่าย ๆ ในทุกวัน

หากคุณชื่นชอบแชร์บทความนี้เลย
Scroll to Top